ประวัติ...พระครูสุคนธวิศิษฏ์ (หลวงพ่อเพริ้ม โกสิโย)
หรือที่ผู้คนที่เคารพศรัทธาต่อท่าน เอ่ยนามท่านว่า พ่อท่านเอ็น หรือ หลวงพ่อเอ็น กันจนติดปาก แต่เดิมพื้นเพท่านเป็นชาวอำเภอคีรีรัฐนิคม
ท่านได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ซึ่งตรงกับ วันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะแม นามเดิม เพริ้ม ทองสัมฤทธิ์
นามบิดา นายพัฒน์ ทองสัมฤทธิ์ มารดา นางพร้อม ทองสัมฤทธิ์ ภูมิลำเนา หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านยาง อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสถิตคีรีรมย์ (วัดเขาราหู) ในสมณศักดิ์นามว่า พระครูสุคนธวิศิษฏ์ ทั้งยังเป็นพระธรรมฑูต และครูปริยัติธรรม
การศึกษาในวัยเยาว์ท่านได้สำเร็จการศึกษาระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียน บ้านย่านยาว อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔
ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดปราการ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ซึ่งตรงกับวันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล
โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ ท่านพระครูสถิตสันตคุณ ซึ่งขณะนั้นปกครองวัดสถิตคีรีรมย์อยู่ ต่อมาท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดฑีฆาราม อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคมพ.ศ.๒๔๙๔โดยมีพระอุปัชฌาย์คือ ท่านพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว เกสโร) วัดสถิตคีรีรมย์ ตำบลย่านยาว อำเภอคีรีรัฐนิคม
มีพระกรรมวาจาจารย์คือ ท่านพระครูปราการสมานคุณ วัดปราการ ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม และมีพระอนุสาวนาจารย์คือ ท่านพระครูมนูญธรรมธาดา วัดถ้ำสิงขร
ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม หลังจากอุปสมบทแล้วท่าน ได้พากเพียรศึกษาหาความรู้ จนสามารถสอบได้ นักธรรมเอก ในปี พ.ศ.๒๔๙๔ ณ สำนักเรียนวัดปราการ อำเภอคีรีรัฐนิคม
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระสมุห์เพริ้ม
และในปี พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้รับความไว้วางใจ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส วัดสถิตคีรีรมย์
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดสถิตคีรีรมย์
ในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ท่าน ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๙ ท่านก็ได้รับพระราชทานสมณศักดื์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท
ในงาน ด้านการปกครอง ท่านได้ยึดถือกฎระเบียบในการปกครองวัด ตามหลักพระธรรมวินัย นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ใฝ่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ โดยท่านได้เข้ารับการศึกษาพิเศษ
เข้ารับการอบรมพระธรรมฑูต พระธรรมถึก พระครูแผนใหม่ จนมีความชำนาญในการบรรยายธรรม ซึ่งได้รับนิมนต์เป็นผู้บรรยายธรรม ในที่ประชุมประจำอำเภออยู่เสมออีกด้วย
ท่านยังเป็นผู้รู้ในธรรมอันเห็นได้จาก ในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ท่านได้ เป็นครูสอนปริยัติธรรม แผนกธรรม สำนักเรียน(ศาสนศึกษา) วัดปราการ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฏร์ธานี
และในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ ท่านได้เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา วัดสถิตคีรีรมย์ (แผนกนักธรรม) อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งท่านได้ให้การสนับสนุนการศึกษาแก่บรรดาภิกษุสามเณร
เป็นอย่างดีด้วยจะมีผู้สำเร็จการศึกษานวกภูมิ และแผนกธรรมอยู่โดยตลอด
ในส่วนของงานด้านการเผยแผ่พระศาสนา ท่านได้เป็นผู้นำชุมชนในการประกอบพิธีทางศาสนา ในวันสำคัญต่างๆเสมอมา ได้มีการจัดอบรมแก่บุคคลต่างๆ
ทั้งอบรมศีลธรรมแก่นักเรียน ข้าราชการ ตลอดจนผู้หลงผิดติดยา ให้กลับตัวดำเนินชีวิตในทางที่ถูก และจัดให้มีการอบรมพระนวกะทุกปี
ในงานด้านสาธารณูปการ ท่านได้ทำการทนุบำรุงวัดสถิตคีรีรมย์เพื่อให้สมกับเป็นวัดที่จะเป็นหน้าเป็นตาของชุมชน ดังเจตนาของ ท่านพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว เกสโร) ผู้เป็นอาจารย์
และผู้เริ่มก่อตั้งวัด โดยที่ผ่านมาท่านได้ดำเนินการ ก่อสร้างบันไดขึ้นเขา อีกทั้งสร้างกุฏิพระสงฆ์และแม่ชีเพิ่มจากเดิม ได้สร้างกำแพงกำหนดเขตวัดและปรับปรุงทัศนียภาพของวัดให้ดูงามตา