เทพเจ้าแห่งเมืองคนดี ... พระครูพิเศษเขมาจาร ( หลวงพ่อท้วม เขมจาโร)
หลวงพ่อท้วม เขมจาโร เจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ ชื่อเดิม เขียม อักษรสม เกิดเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ ที่บ้านสมอทอง หมู่ ๒ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันหลวงพ่อท้วม อายุ ๙๑ ปี พรรษา ๖๔ บิดาชื่อ นายเชื่อม มารดาชื่อ นางทา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด ๗ คน พี่ชายคนโตคือ พระราชวีรมุนี (สีหนาทภิกขุ ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดเลย ปัจจุบันมรณภาพแล้ว และพี่ๆอีก ๔ คนก็ได้เสียชีวิตแล้วเช่นกัน คงเหลือแต่ พระครูสิริรัตนโสภณ (หลวงพ่อแดง ) เจ้าคณะตำบลเสี้ยว วัดกอไร่ใหญ่ อ.เมือง จ.เลย น้องชายเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีสุวรรณ หลวงพ่อท้วม จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารได้สมัครใจเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติอยู่ ๒ ปี หลังจากปลดประจำการ ท่านมาเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นท่านได้อุปสมบทเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๒ ณ วัดศรีสุวรรณ โดยมีพระครูประสงค์สารการ (หลวงพ่อเทศน์ โยธารักษ์) วัดวิชิตดิตถาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูฮอด หิรัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณลำดับที่ ๒ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระวีรญาณมุนี วัดศรีบุญเรือง จังหวัดเลย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “เขมจาโร” อันหมายถึง ผู้มีความประพฤติเรียบร้อยดีงาม ระหว่างอุปสมบทได้เดินทางไปปฎิบัติธรรมและศึกษาพระธรรมวินัยในหลายจังหวัด ทางภาคอีสาน ก่อนกลับมาจำพรรษาที่วัดศรีสุวรรณ
พ.ศ. ๒๔๙๙ได้ศึกษาพระธรรมจนจบชั้นนักธรรมเอก และดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ เมื่อแก่พรรษามากขึ้นก็ได้รับตำแหน่งหน้าที่และสมณศักดิ์สูงขึ้นเป็นลำดับ ดังนี้
พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นลำดับที่ ๓ จนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท (จร.ชท.) ในราชทินนามที่พระครูพิเศษเขมาจาร
พ.ศ. ๒๕๑๙ เลื่อนยศเป็นพระครูชั้นพิเศษที่ พระครูพิเศษเขมาจาร และเมื่อวันที่ ๑๖ ก.พ. พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับโปรดเกล้าฯ ตราตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ (ชั้นสามัญ ) ราชทินนามว่า “ พระสุวรรณสุมงคล ”
หลวงพ่อท้วม เขมจาโร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตา ยามได้รับกิจนิมนต์ก็ไม่เคยปฏิเสธแม้ว่าท่านจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหา ด้านสุขภาพ เพราะท่านถือว่าเป็นกิจของสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงงานก่อนเสมอ มีหลายคราวที่ต้องไปรอเจ้าภาพเสียด้วยซ้ำไป การเข้าพบกราบนมัสการสะดวกมากไม่มีพิธีรีตองหรือเลือกชนชั้นแต่อย่างใด จึงทำให้ท่านมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก ในแต่ละวันจะมีชาวบ้านที่ศรัทธา มากราบขอพร ขอความเมตตาให้ท่านเจิมรถ จารแผ่นชนวนเสกสิ่งของ ประพรมน้ำมนต์ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ ในฐานะพระอุปัชฌาย์ท่านก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่บกพร่อง รับหน้าที่ในการบรรพชาอุปสมบทให้พระภิกษุสามเณรอีกทั้งบวชชีพราหมณ์เพื่อ เป็นการสืบทอดและบำรุงพระศาสนา กิจนิมนต์งานพุทธาภิเษกวัตถุมงคลยังวัดต่างๆต้องเดินทางเสมอๆ แม้นจะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ท่านก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถทัดทานได้ หลวงพ่อเคยกล่าวว่า “ เมื่อเขาพร้อมเราก็พร้อม ฤกษ์ดีอยู่ที่สะดวก ในเมื่อเขาตั้งใจมาหาเพื่อให้เราช่วยแล้วเราก็ต้องทำให้ทันทีด้วยความเต็มใจ ” ด้านการศึกษา ท่านก็ให้ความสำคัญ และเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะท่านมีความผูกพันกับการเรียนการสอนมาตั้งแต่ก่อนจะอุปสมบท ปัจจุบันท่านยังเป็นกรรมการสถานศึกษาถึงสองแห่งคือ โรงเรียนวัดศรีสุวรรณ และโรงเรียนบ้านคลองสงค์ ท่านให้การอุปถัมภ์นักเรียนด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กที่เรียนดีแต่ขาด แคลนทุนทรัพย์เสมอมา ส่วนวัตถุมงคลรุ่นต่างๆที่ท่านได้สร้างและทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ก็ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าสู่กันฟังมากมาย ถึงแม้นว่าค่านิยมทางด้านราคายังไม่สูงมากมายนัก แต่ด้วยพลังแห่งพุทธคุณที่ปรากฏครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นด้านความคงกระพันชาตรี โชคลาภมหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ด้วยพลังแห่งศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อท้วม มักมีการแสวงหามาเพื่อบูชาติดตัวอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้ท่านเป็นที่ยกย่องกล่าวขานถึงความ ศักดิ์สิทธิ์และความเมตตา มีศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ นับเป็นเป็นอริยะสงฆ์แห่งแดนใต้อีกรูปหนึ่งที่ควรค่าแก่การเคารพกราบไหว้ สมกับเป็น พระเกจิหนึ่งในดวงใจ เทพเจ้าแห่งเมืองคนดี
หลวงพ่อท้วมท่านเล่าตำนานเกี่ยวกับเรื่องสมอทอง ไว้ว่า... เนื่องจากในอดีตมีเรื่องเล่ากันว่าบริเวณที่แห่งนี้นานมาแล้วเดิมทียังเป็น ทะเล มีเรือสำเภาจีนขนาดใหญ่ได้เจอพายุถูกคลื่นยักษ์ซัดเข้ามา กัปตันเรือไม่สามารถบังคับเรือได้จึงสั่งให้ลูกเรือทอดสมอลงทะเลเพื่อหลบ พายุ แต่ไม่สามารถทำให้เรือจอดได้ จึงได้สั่งลูกเรือให้ทอดสมออีกครั้งโดยครั้งนี้ได้สั่งให้ทอดสมอพร้อมกัน คราวเดียวถึง ๗ ตัว แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเรือสำเภาก็ไม่หยุดนิ่ง ยังคงลอยไร้ทิศทางมาจนถึงบริเวณที่ตั้งบ้านสมอทองปัจจุบัน กัปตันได้สั่งให้ลูกเรือเอาสมอเรือทอดลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างกว่าครั้งก่อนๆเพราะว่าสมอที่ใช้ทอดนั้นเป็น สมอทอง ปรากฏว่าครั้งนี้สามารถทำให้เรือสำเภาจอดนิ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อพายุคลื่นลมสงบเรือสำเภาจะออกเดินทางต่อ แต่ไม่สามารถถอนสมอทองกลับคืนมาได้ เวลาล่วงมาถึงยุคปัจจุบัน สถานที่ทอดสมอเรือทั้ง ๗ ตัว ชาวบ้านจึงมีชื่อเรียกกันว่า “ บ้านสมอเจ็ด” บริเวณที่ทอดสมอทองมีชื่อเรียกว่า “ บ้านสมอทอง ” และทางด้านใต้ของบ้านสมอทองที่หูรั้งของสมอเรือพาดไปนั้น มีชื่อเรียกว่า “ บ้านหูรั้ง ” ซึ่งปัจจุบันได้เรียกเพี้ยนไปเป็น “ บ้านหูรัง ” ซึ่งปัจจุบันสถานที่ในตำนานดังกล่าวคือ… ตำบลสมอทองอันเป็นที่ตั้งของวัดศรีสุวรรณ
๒๘ ธันวาคมของทุกๆปี ศิษยานุศิษย์จะจัดงานทำบุญอายุพระครูพิเศษเขมาจาร (หลวงพ่อท้วม เขมจาโร) ณ.วัดศรีสุวรรณ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะเดียวกันหลวงพ่อท้วมจะทำพิธีป้อนข้าวเหนียวดำ ซึ่งการหุงข้าวเหนียวดำกับน้ำว่านตามโบราณ ถือว่าเป็นหมอยาอย่างหนึ่ง ใช้เพื่อป้องกันอันตราย แคล้วคลาดทั้งปวง โดยส่วนนี้ได้จัดทำขึ้นมาแจกเป็นมงคลให้กับประชาชนที่มาร่วมงานในวันดังกล่าวด้วย
... วาระสุดท้ายของชีวิต พระอาจารย์หลวงปู่ท้วม เขมจาโร ได้ละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อเวลาประมาณ 5.00 นาฬิกา วันที่ 31 มีนาคม 2561 ณ โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ธานี สิริอายุรวม 95 ปี 3 เดือน 4วัน ครองสมณเพศเป็นเวลา 69 พรรษา
เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสงฆ์ ประจำปี ๒๕๕๗ หลวงปู่ท้วม เขมจาโรได้รับโปรดเกล้าฯ ตราตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ (ชั้นสามัญ ) ราชทินนามว่า “ พระสุวรรณสุมงคล ” ถือได้ว่าท่านเป็นพระราชาคณะองค์แรกของอำเภอท่าชนะ โดยศิษยานุศิษย์ได้พร้อมใจกันจัดงานฉลองแสดงมุทิตาเนื่องในโอกาสท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ และทำบุญอายุวัฒนมงคลครบ ๙๒ ปีบริบูรณ์ในวาระเดียวกันด้วย ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗ เวลา ๙.๐๙ น. จะมีการประกอบพิธีสวดทักษิณานุปาทาน โดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำสรง พานพุ่มดอกบัว ผ้าไตร เนื่องในโอกาสทำบุญอายุวัฒนะมงคลของพระอาจารย์หลวงปู่ท้วมอีกด้วย โดยมีพระธรรมวิมลโมลี วัดไตรธรรมาราม เจ้าคณะภาค ๑๖ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ ว่าที่ร้อยตรีวิชวุทย์ จินโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสภ์ สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก
พรจากหลวงพ่อท้วม เขมจาโร “ ขอให้ท่านโชคดีมีเงินใช้ ให้ร่ำรวยพร้อมด้วยพรทั้งสี่ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ นึกสิ่งใดที่ชอบประกอบด้วยธรรม ให้สิ่งนั้นสมปรารถนาทุกประการทุกท่านเทอญ ”
หลวงพ่อท้วม เขมจาโร เมตตาให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในสตูดิโอ จังหวัดนครศรีธรรมราช 26 กันยายน 2554